Kiwiland ดินแดน “Long white cloud” หรือประเทศนิวซีแลนด์ที่ทุกคนรู้จัก 😊บางคนอาจจะรู้จักดินแดนแห่งนี้เพราะ..นกกีวี บางคนอาจจะรู้จักเพราะ คุณแม่ชอบใช้ครีมรกแกะ 😆😁 (ครีมเค้าดีจริงๆนะ) หลายๆ คนอาจรู้จักเพราะภูมิทัศน์ที่สวยงามตระการตาจากภาพยนต์ชื่อดังในอดีต “Lord of the rings” หรืออาจรู้จักเพราะ All Black ทีมรักบี้ฝีมือระดับโลก ภาพจำการแสดง Haka แสดงความแข็งแกร่ง ข่มขวัญคู่ต่อสู้ ก่อนการแข่งขัน 🥳

สำหรับข้อมูลทั่วไปของประเทศนิวซีแลนด์ ขอบอกเล่าเก้าสิบถึง 4 เรื่องหลักๆ ได้แก่
1. ภูมิประเทศ – ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะหลักๆ คือ เกาะเหนือ และเกาะใต้ อีกทั้งยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยนับร้อยรายรอบ ตั้งอยู่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ เมืองหลวง คือ เวลลิงตัน (Wellington) แต่เมืองใหญ่ที่สุดหรือเมืองเศรษฐกิจคือ โอ๊คแลนด์ (Auckland) ซึ่งทั้งสองเมืองดังกล่าวตั้งอยู่บนเกาะเหนือ
2. มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศไทย จำนวนประชากรเพิ่งทะลุ 5 ล้านคน 🙋♂️เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง

3. นิวซีแลนด์เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ทำการเพาะปลูก🌳 เลี้ยงสัตว์🐄🐮🐑 และผลิตสินค้าทางการเกษตรเป็นหลัก การส่งออกสินค้าทางการเกษตรเป็นรายได้หลักของประเทศ สินค้าส่งออกได้แก่ผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ ขนสัตว์ ผลไม้🍎🍏เป็นต้น
4. ฤดูกาล มี 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เกาะใต้มีอุณหภูมิต่ำกว่าเกาะเหนือและมักมีหิมะตกในฤดูหนาว❄️ เป็นประเทศที่สภาพอากาศไม่หนาวจัดและไม่ร้อนจัดจนเกินไป
หลายๆคน คงสงสัยว่าอะไรที่ทำให้ประเทศนิวซีแลนด์ มีสเน่ห์ดึงดูดให้เราต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปศึกษาต่อ ไปทำงาน หรือแม้แต่ไปใช้ชีวิตอยู่ก็ตาม เพราะอะไรบ้าง มาลองอ่านกันดูจ้า😊
– ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัย และมีภูมิประเทศที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลก 🗻
– ในปี 2021 เมืองโอ๊คแลนด์ได้รับการจัดลำดับว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก🏡 ( โดยนิตยสารชื่อดัง Economist Intelligence Unit) ซึ่งนอกจากการพิจารณาปัจจัยคุณภาพชีวิตของประชากรในด้านต่างๆ แล้วยังรวมถึงการรับมือกับ Covid-19 อีกด้วย และในปี 2022 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าสุดที่สุดของโลก อันดับที่ 6 (โดย CS Global Partners) ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง อยู่ที่ 22.70 NZD หรือประมาณ 480 บาทต่อชั่วโมง 💲ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน 66



– 30% ของพื้นที่ประเทศเป็นเขตอนุรักษ์🏞 (National Reserve) 🌞นั่นหมายความว่าประเทศมีการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมไว้เป็นอย่างดี รวมถึงพลังงานไฟฟ้าในประเทศ มาจากพลังงานลม🌬 พลังงานน้ำและพลังงานความร้อนใต้พิภพ🔥 จึงทำให้เป็นพลังงานสะอาดที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน
– ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่ง “ความเท่าเทียม” นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกๆ ที่ให้ผู้หญิงได้รับสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง และอนุญาตให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้👩❤️👩👨❤️👨
– ชาวนิวซีแลนด์ มีอัธยาศัยดี เป็นมิตร มีชีวิตเรียบง่าย ชอบธรรมชาติ ชอบการออกกำลังและการเล่นกีฬา🏃♀️🏃♂️👍
– นิวซีแลนด์ไม่มีสัตว์อันตราย เช่น งู 🐍อันนี้ดี 😁


– และเรื่องสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือเรื่องระบบการศึกษา🕵️♀️👩🌾👩🍳👩🎓🧑🎤🧑💻👩🚀👨✈️ ซึ่งในแต่ละปีที่ผ่านมานิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับจาก The Worldwide Educating for the Future Index อยู่ในลำดับต้นๆ ของโลกในการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก้าวสู่โลกการทำงานในอนาคตได้ดีที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุระหว่าง 15-24 ปี
New Zealand เป็น 1 ในหลายๆ ประเทศที่เป็นเจ้าของภาษาอังกฤษ หากน้องๆ หนูๆ กำลังมองหาแหล่งการศึกษาที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพในระดับต่างๆ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาสำหรับเด็กไปจนถึงการศึกษาระดับสูงของวัยผู้ใหญ่ อยากให้ลองเปิดใจทำความรู้จักกับ ประเทศนิวซีแลนด์กัน รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง จุดเด่นแต่ละข้อจะถูกใจพวกเรากันหรือไม่ มาดูกัน
1. การศึกษามีคุณภาพสูง- มหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งของประเทศอยู่ถูกจัดอยู่ในลำดับมหาวิทยาลัยคุณภาพ 3% แรกของโลก
2. ไลฟ์สไตล์ที่เหนือชั้น- นิวซีแลนด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน น้องๆจะสามารถสนุกกับการผจญภัยครั้งใหม่ได้ในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการ Explore กับการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน รวมถึงการท่องเที่ยว หรือการทำกิจกรรมต่างๆ
3. การเรียนภาษาอังกฤษ- รู้หรือไม่ว่านิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศอันดับ 1 ของโลกในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสำหรับอนาคต เพราะฉะนั้นการศึกษาในนิวซีแลนด์จะช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆของน้องๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน
4. เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตการทำงานในอนาคต – การศึกษาในนิวซีแลนด์ จะเตรียมนักเรียนนักศึกษาเข้าสู่ชีวิตการทำงานในอนาคต โดยขณะที่ศึกษาอยู่นั้น น้องๆ จะฝึกงานพร้อมรับค่าตอบแทน ซึ่งเป็นการให้ประสบการณ์อันมีค่าในระหว่างที่เล่าเรียนอยู่ในประเทศนี้
5. ได้รับทักษะชีวิต- การศึกษาในนิวซีแลนด์เป็นโอกาสในการเติบโตและการพัฒนาตนเอง น้องๆจะได้เรียนรู้การสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การฝึกคิดอย่างอิสระ และทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพการงานระดับสากลและเสริมสร้างความสำเร็จในอนาคต
ระดับการศึกษาในประเทศในนิวซีแลนด์
- Primary school หรือระดับประถมศึกษา (Year 1-6) อายุ 5-10 ปี
- Intermediate school หรือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Year 7-8) อายุ 11-12 ปี
- Secondary school หรือระดับมัธยมศึกษา (Year 9-13) อายุ 13-17 ปี

โดยโรงเรียนแบ่งเป็น 3 แบบได้แก่
-
- โรงเรียนรัฐบาล (state schools) ซึ่งเด็กชาวนิวซีแลนด์กส่วนใหญ่ 85% ของประเทศเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาล
- โรงเรียนกึ่งรัฐบาลกึ่งเอกชน (state-integrated school) ซึ่งอาจดำเนินการศาสนาหรือใช้วิธีการสอนเฉพาะทาง
- โรงเรียนเอกชน (private schools)

- Vocational education หรือการศึกษาวิชาชีพ เปิดสอนในสถาบันโพลีเทคนิคและสถาบันเทคโนโลยี
- Higher education หรือระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า
- English Language Institutions หรือสถาบันสอนภาษา หลักสูตรที่เป็นที่นิยมได้แก่ General English/ Intensive English Course, Exam Preparation, English for Academic Purposes: EAP, English for Specific Purposes, Business English Course เป็นต้น

ซึ่งปัจจัยสำคัญมากๆ ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ คนไทยที่ไปเรียนยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ (..ถ้าอยากพัฒนาภาษาอย่างรวดเร็ว ต้องทิ้งระยะความใกล้ชิดกับคนไทยชั่วคราวนะจ๊ะ😉) อีกทั้งค่าใช้จ่ายจับต้องได้ ไม่ไกลเกินเอื้อม 🤑
Kiwiland ดินแดนในฝัน ซึ่งเป็นคำพูดที่เคยได้ยินบ่อยๆ และขอยืนยันว่าไม่เกินความจริงเลยทีเดียว หลังจากที่คอยแนะนำให้คนใกล้ตัว คนสนิท คนรอบข้างแล้ว ตอนนี้ก็อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก Kiwiland เช่นกัน…💌📌❤️